ถาม-ตอบ (Q&A)
ประเภทของนาฏศิลป์ไทย
โพสโดย
pong
link@siamzone.com

1

รู้หรือไม่ว่า เมื่อกล่าวถึงนาฏศิลป์ไทยไทยแล้ว คนจำนวนมากก็จะนึกถึงเฉพาะ การรำ ฟ้อนรำ หากแต่จริงแล้วนาฏศิลป์ไทยมีความหมายที่กว้างกว่านั้น โดย รวมไปถึงงานศิลปะพวก ละคร หรือ งานมโหรศพ อีกด้วย เรามาศึกษาถึงประเภทของนาฏศิลป์ไทยกัน

นาฏศิลป์ไทย แบ่งออกเป็น 4 ประเภท

  1. รำ คือการแสดงที่มุ่งเน้นถึงศิลปะท่วงท่า ดนตรี ไม่มีการแสดงเป็นเรื่องราว รำบางชุดเป็นการชมความงาม บางชุดตัดตอนมาจากวรรณคดี หรือบางทีก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีเนื้อเพลงเช่นการรำหน้าพาทย์เป็นต้น รำจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทดังนี้
      
              
    1. รำเดี่ยว เป็นการแสดงที่มุ่งอวดศิลปะทางนาฏศิลป์อย่างแท้จริงชึ่งผู้รำจะต้อมมีผีมือดีเยี่ยม เพราะเป็นการแสดงที่แสดงแต่เพียงผู้เดียว รำเดี่ยวโดยส่วนมากก็จะเป็นการรำฉุยฉายต่างๆ เช่น ฉุยฉายเบญจกาย ฉุยฉายวันทอง ฯลฯ เป็นต้น
    2.         
    3. รำคู่ การแสดงชุดนี้ไม่จำเป็นจะต้องพร้อมเพียงกันแต่อาจมีท่าที่เหมือนก็ได้ เพราะการรำคู่นี้เป็นการใช้ลีลาที่แตกต่างกันระหว่างผู้แสดงสองคน เช่นตัวพระ กับตัวนาง หรือบทบาทของตัวแสดงนั้น รำคู่นี้ก็จะแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ           
                    
      1. รำคู่สวยงามจากวรรณคดี เช่น หนุมานจับนาสุพรรณมัจฉา เป็นต้น
      2.             
      3. รำมุ่งอวดการใช้อุปกรณ์ เช่น การรำอาวุธ รำกระบี่กระบอง
    4.         
    5. รำหมู่ รำชุดนี้เป็นการรำที่เน้นความพร้อมเพรียง เช่นรำอวยพรชุดต่างๆ
    6.         
    7. รำละคร คือการรำที่ใช้ในการแสดงละครหรือโขน เป็นการแสดงท่าท่างสื่อความหมายไปกับบทร้อง หรือบทละคร และเพลงหน้าพาทย์ต่างๆในการแสดงละคร
    8.     
  2. ระบำ คือการแสดงที่มีความหมายในตัวใช้ผู้แสดงสองคนขึ้นไป คือผู้คิดได้มีวิสัยทัศน์และต้องการสื่อการแสดงชุดนั้นผ่านทางบทร้อง เพลง หรือการแต่งกายแบบ ที่มาจากแรงบัลดาลใจ จากเรื่องต่างๆ เช่นวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี และเป็นการแสดงที่จบในชุดๆ เดียว เป็นต้น ระบำ จะแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ          
    1. ระบำมาตรฐาน เป็นระบำที่บรมครูทางนาฏศิลป์ได้คิดค้นไว้ ทั้งเรื่องเพลง บทร้อง การแต่งกาย ท่ารำ ซึ่งไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ ระบำมาตรฐานจะมีอยู่ทั้งหมด 6 ชุด คือ ระบำสี่บท ระบำย่องหงิดหรือยู่หงิด ระบำพรมมาตร ระบำดาวดึงส์ ระบำกฤษดา ระบำเทพบันเทิง
    2.         
    3. ระบำที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ เป็นระบำที่บรมครูหรือผู้รู้ทางนาฏศิลป์ได้คิดค้นและปรับปรุงชึ้นมาใหม่ ชึ่งสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ตามโอกาส อาจเป็นระบำที่ได้แรงบัลดาลใจที่ผู้ประดิษฐ์ต้องการสื่ออาจเป็นเรื่องของการแต่งกาย วิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี ระบำปรับปรุงมีอยู่หลากหลายเช่น ระบำชุมนุมเผ่าไทย ระบำไกรราศสำเริง ระบำไก่ ระบำสุโขทัย ฯลฯ เป็นต้น            

      ฟ้อน และ เซิ้ง ก็จัดว่าเป็นระบำที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ เพราะผู้รู้หรือผู้เชี่ยวชาญทางนาฏศิลป์ได้คิดค้นขึ้นมา มีการแต่งการตามท้องถิ่นเพราะการแสดงแต่ละชุดได้เกิดขึ้นมาจากแรงบัลดาลใจของผู้คิดที่จะถ่ายทอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวิถีชีวิต การแต่งกาย ดนตรี เพลง และการเรียกชื่อการแสดงนั้น จะเรียกตาม ภาษาท้องถิ่น และการแต่งกายก็แต่งกายตามท้องถิ่น เช่นภาคเหนือก็จะเรียกว่าฟ้อน เช่นฟ้อนเล็บ ฟ้อนเทียน ภาคอิสานก็จะเรียกและแต่งกายตามท้องถิ่น ทางภาคอิสานเช่น เซิ้งกะติ๊บข้าว เซิ้งสวิง เป็นต้น การแสดงต่างๆล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นมาจากท้องถิ่นและแต่งกายตามท้องถิ่นไม่ได้มีหลักหรือ เกณฑ์ที่ใช้กันโดยทั่วไปในวงการนาฏศิลป์ไทยทั่วประเทศสามารถปรับปรุงหรื่อเปลี่ยนแปลงได้ตามโอกาสที่แสดง จึงถือว่า การฟ้อนและการเซิ้งเป็นระบำที่ปรับปรุงขึ้นใหม่

              
    4.     
  3. ละคร คือการแสดงเรื่องราวโดยมีตัวละครต่างดำเนินเรื่องมีผูกเหตุหรือการผูกปมของเรื่อง ละครอาจประกอบไปด้วยศิลปะหลายแขนงเช่น การรำ ร้อง หรือดนตรี ละครจะแบ่งออกเป็นสองประเภทได้แก่  
              
    1. ละครแบบดั้งเดิม มีอยู่สามประเภท คือ โนห์ราชาตรี ละครนอก ละครใน
    2.         
    3. ละครที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ มีอยู่หกประเภท ละครดึกดำบรรพ์ ละครพันทาง ละครเสภา ละครพูด ละครร้อง ละครสังคีต
    4.     
  4. มหรสพ คือการแสดงรื่นเริง หรือการแสดงที่ใช้ในงานพิธีต่างๆ มีรูปแบบและวิธีการแสดงที่เป็นแบบแผน เช่น การแสดงโขน หนังใหญ่เป็นต้น

ขอบคุณบทความจาก ***

โพสโดย : pong
IP : 61.90.111.36
โพสเมื่อวันที่ : 17 ก.พ. 2564,19:50 น.
ความเห็นที่ 1
โพสโดย
pong
link@siamzone.com
เนื้อเพลง เงือกทอง

หนึ่งพันกิโล จาก กทม.
มีตำนานกล่าวขานเรื่องหนึ่ง
มีหญิงสาวรูปงามรูปนามหนึ่ง
ที่เขาคิดถึง และยังรอรักมั่นคง

ดั่งทะเลที่คู่กับหาดทราย
ที่มีความหมายคือเราต้องอยู่ด้วยกัน
แต่ตอนนี้มีเพียงแค่ตัวฉัน
เป็นเพียงรูปปั้นที่ทนฝนแดดลม

นั่งรอเธอที่สมิหลา อยู่นานแล้ว
พระอภัยยังไม่มา มีคนโน้นคนนี้มาหา
แต่ไม่มีความรักที่เธอคอยกลับมา
นานก็จะคอย

เหลือเพียงตัวฉันและทิวสนบางๆ
ที่อยู่ท่ามกลาง เกาะหนู เกาะแมว
พระอภัยยังไม่มา พระอภัยยังไม่มา
อยู่ที่สมิหลา คงต้องอยู่อีกร้อยปี

อีกร้อยปี พันปี หมื่นปี
จะอยู่ตรงนี้ อยู่เป็นตำนาน
วะ ออ อ้อ ออ วะ ออ อ้อ เออ
นั่งรอเธออยู่ตรงนี้แสนนาน
วะ ออ อ้อ ออ วะ ออ อ้อ เออ
ฉันนั่งรอเธออยู่ตรงนี้นานแสนนาน

นั่งรอเธอที่สมิหลา อยู่นานแล้ว
พระอภัยยังไม่มา มีคนโน้นคนนี้มาหา
แต่ไม่มีความรักที่คอยคืนกลับมา

พระอภัยยังไม่มา พระอภัยยังไม่มา
อยู่ที่สมิหลา เราคงต้องอยู่อีกร้อยปี
อีกร้อยปี พันปี หมื่นปี จะอยู่อย่างนี้

นานเท่าไรก็ยังรอ ฉันก็จะรอ
โพสโดย : pong
IP : 61.90.111.36
โพสเมื่อวันที่ : 17 ก.พ. 2564,19:51 น.
แสดงความเห็น
ความคิดเห็น :
ชื่อ :
อีเมล์ :
เบอร์โทร :
กรอกรหัส :